5 หนังชีวประวัติฟีลกู้ด แฝงข้อคิดดีๆ

ในปัจจุบัน มีหนังหรือภาพยนตร์มากมายหลายรูปแบบที่น่าสนใจและสนุกสนาน ที่มักจะให้ความบันเทิงเป็นหลัก ซึ่งแฝงไปด้วยข้อคิดดีๆ หลายๆ อย่างที่เราอาจคิดไม่ถึง วันนี้เราจึงอยากขอพาทุกๆ ท่านไปพบกับ “5 หนังชีวประวิฟีลกู้ด แฝงข้อคิดดีๆ” ที่สนุก ฟีลกู้ดพร้อมกับข้อคิดดีๆ กันครับ จะมีเรื่องอะไรบ้างนั้น เราไปดูกันดีกว่าครับ

พบกับ “5 หนังชีวประวัติฟีลกู้ด แฝงข้อคิดดีๆ”

●The Pursuit of happiness

ชีวิตต้องสู้ของคุณพ่อใน The Pursuit of Happyness สร้างจากเรื่องจริงของ คริส การ์ดเนอร์ มหาเศรษฐีผู้ไม่เคยย่อท้อต่ออุปสรรคในชีวิต หนังเรื่องนี้เต็มไปด้วยข้อคิดเรื่องการใช้ชีวิตและความหวังมากมาย และประโยคที่สร้างกำลังใจให้ใครหลายคนคงหนีไม่พ้น “อย่าให้ใครมาบอกว่าลูกทำอะไรไม่ได้ เมื่อเรามีความฝันเราต้องปกป้องมัน และเมื่อเราต้องการอะไรก็จงคว้ามันมาให้ได้” ทำให้เห็นว่าแม้ในสถานการณ์ที่ยากลำบากกำลังใจจากครอบครัวและคนที่คุณรักจะเป็นพลังที่ยิ่งใหญ่ที่ผลักดันให้ก้าวต่อไป

●Wonder

หนังดัดแปลงมาจากวรรณกรรมเยาวชนติดอันดับ 1 New York Times Bestselle ผลงานการเขียนโดย อาร์.เจ. ปาลาซิโอ ถ่ายทอดชีวิตของเด็กชายวัย 10 ขวบ ออกัสต์ พูลล์แมน เด็กชายผู้ป่วยเป็นโรคปากแหว่งเพดานโหว่ตั้งแต่แรกเกิด เขาต้องเข้ารับการผ่าตัดหลายครั้งเพื่อให้มีชีวิตรอด และผลจากการผ่าตัดคือทำให้เขามีแผลบนใบหน้า อ๊อกกี้ ใช้เวลาทั้งหมดอยู่แต่ในบ้าน แต่เมื่อถึงจุดจุดหนึ่งเขาต้องออกไปเผชิญโลกภายนอกด้วยการไปเรียนหนังสือที่โรงเรียน มันไม่ง่ายเลยที่เด็กคนหนึ่งที่คิดว่าตัวเองแตกต่างจะต้องเข้าสังคม อ๊อกกี้ ต้องเอาชนะความกลัวของตัวเองและต่อสู้กับสิ่งที่คนภายนอกคิด ด้วยหัวใจที่อ่อนโยนแต่แข็งแกร่ง พร้อมแรงซัพพอร์ตของครอบครัว ส่งต่อให้คนรอบข้างเปลี่ยนมุมมองต่อการใช้ชีวิตได้เป็นอย่างดี

●The Intouchables

เป็นหนังที่สร้างกำลังใจได้อย่างดีสำหรับ The Intouchables กับเรื่องจริงของมหาเศรษฐีที่ต้องนั่งเก้าอี้เข็นตลอดชีวิตเพราะอุบัติเหตุ จึงต้องหาพยาบาลส่วนตัวมาดูแล และนั่นเป็นจุดเริ่มต้นให้เขาได้พบกับคนดูแลที่ทำให้เขาเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีอย่างคาดไม่ถึง มิตรภาพของทั้งสองคนค่อย ๆ เติบโตขึ้นผ่านเสียงหัวเราะและน้ำตา ซึ่งการทะเลาะถกเถียงกันในหลาย ๆ เรื่องกลับทำให้เขาทั้งคู่กลายมาเป็นเพื่อนสนิทที่รู้ใจกันเป็นอย่างดี ทั้งคู่เป็นเหมือนส่วนผสมที่แตกต่างแต่สามารถรวมกันได้อย่างลงตัว หนังเรื่องนี้สอนให้เรากลายเป็นคนที่มองโลกในแง่ดี ใครที่ต้องการเติมเต็มช่องว่างในจิตใจหนังเรื่องนี้สามารถตอบโจทย์คนดูได้อย่างแน่นอน

●Green Book

เป็นภาพยนตร์ที่สร้างจากเรื่องจริงที่เกี่ยวกับเรื่องราวที่สวยงามของมิตรภาพของคนต่างผิวสีต่างนิสัยและต่างที่มา ซึ่งเกิดขึ้นจริงในวงการบันเทิงอย่าง ดร.ดอน เชอร์ลีย์ นักเปียชื่อดังระดับโลก กับบอดี้การ์ดอิตาลีสุดกระด้างจากย่านกุ๊ยของนิวยอร์กอย่าง โทนี่ ลิป วัลเลลองก้า ที่ถูกว่าจ้างให้ติดตามดูแลครั้งที่ ดร.เชอร์ลีย์ ต้องเดินทางแสดงผลงานในภาคใต้ของอเมริกาซึ่งมีประวัติการเหยียดผิวรุนแรงที่สุดเพราะเป็นดินแดนที่ค้าทาสผิวสีเดิม ก่อนที่จะแพ้สงครามกลางเมืองและมีการบังคับเลิกทาสไปในที่สุดสมัยประธานาธิบดีลินคอล์น แต่กระนั้นความรุนแรงของการเหยียดผิวก็ยังฝังรากลึกในวัฒนธรรมแดนใต้อยู่ต่อมายาวนาน การเดินทางแสดงดนตรีธรรมดาจึงมีเรื่องราวมากกว่าแค่การนั่งรถชมวิวนั้นเองครับ

●The Blind Side แม่ผู้นี้มีแต่รักแท้

The Blind Side สร้างมาจากหนังสือชื่อ The Blind Side: The Evolution of a Game* โดย Michael Lewis ซึ่งเป็นชีวิตจริงอันน่าทึ่งของ Michael Oher หนุ่มนักกีฬาอเมริกันฟุตบอลอาชีพและครอบครัวบุญธรรมของเขา

โชคชะตาเล่นตลกเมื่อเขาบังเอิญได้มาเข้าเรียนโรงเรียนคริสเตียนจ๋า อย่าง Briarcrest Christian School โรงเรียนเอกชนของคนขาว ไมเคิลเป็นส่วนเกิน และครูทุกคนก็ล้วนแต่ส่ายหน้าว่าคงไปไม่รอด แต่แล้วครอบครัว Touhy โมเดลของอเมริกันดรีม (ที่สุดของความร่ำรวย พ่อประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน แม่ทำงานตกแต่งภายใน ลูกสาวเป็นเชียร์ลีดเดอร์ ลูกชายก็เรียนมหาวิทยาลัยดี) ก็ได้ก้าวเข้ามาช่วยเหลือเรื่องราวจะเป็นอย่างไร เราต้องไปติดตามกันครับ

เป็นอย่างไรกันบ้างครับกับ “5 หนังชีวประวัติฟีลกู้ด แฝงข้อคิดดีๆ” ภายในเรื่องที่มีหลากอารมณ์ให้เราได้ติดตามชมกัน เราหวังว่าจะช่วยชี้เป้าให้กับทุกๆ ท่านที่กำลังหาหนังดีๆ ดูในช่วงวันหยุดหรื่อคืนพักผ่อนสุดสัปดาห์กันนะครับ